วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง


                สุวิมล ติรกานันท์ (2548:53) กล่าว่าการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องนั้นมี 5 ประการ ดังนี้
1.             ป้องกันการทำซ้ำซ้อน
2.             ทำให้สามารถกำหนดขอบเขตได้ชัดเจนไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป
3.             ทำให้ผู้วิจัยเสนอแนวคิดหรืออภิปรายผลงานวิจัยที่ค้นพบได้ถูกต้องและกว้างขว้างครอบคลุมประเด็นที่ต้องศึกษา
4.             เตรียมการป้องกันความคลาดเคลื่อนเนื่องจากตัวแปรแทรกซ้อน
5.             ช่วยทำให้ผู้วิจัยมีความรู้ในเรื่องที่ทำการวิจัยมากขึ้น เป็นการทบทวนความรู้เดิมและเพิ่มเติมความรู้ใหม่ ในเวลาเดียวกัน


องอาจ นัยพัฒน์ (2548:64) กล่าวว่า การทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องนั้นมีทั้งหมด 6 ประการ ดังนี้
1.             ช่วยให้นักวิจัยได้กรอบแนวคิดทฤษฎีในการวิจัย
2.             ช่วยในการนิยามและกำหนดขอบเขตของหัวข้อปัญหาการวิจัย
3.             ช่วยหลีกเลี่ยงการทำวิจัยที่มีความสำคัญน้อยและซ้ำซ้อนกัน
4.             ช่วยในการกำหนดและปรับปรุงระเบียบวิธีการวิจัย
5.             ช่วยในการตั้งสมมติฐานในการวิจัยเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสม
6.             ช่วยให้ได้แนวทางใหม่สำหรับการวิจัยในโอกาสต่อไป
ล้วน สายยศ และ อังคนาสายยศ (2528:35) กล่าวว่าการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องมี 7 ประการ ดังนี้
1.             เพื่อค้นหาความจริงเป็นความจริงระดับสูงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอย่างไร
2.             เพื่อช่วยในการนิยามปัญหา นิยามเรื่องวิจัยให้กระจ่าง มีทิศทางที่ชัดเจน
3.             ช่วยในการเลือกหัวข้อวิจัยได้ตรงจุดมากขึ้น
4.             ช่วยให้ทราบเทคนิคการวิจัย
5.             หลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อน
6.             ช่วยในการแปลความหมายข้อมูล
7.             ช่วยในการจัดทำรายงานวิจัยได้ถูกต้อง


สรุป
1.             ทำให้สามารถกำหนดขอบเขตได้ชัดเจนไม่กว้างหรือแคบจนเกินไป
2.             ทำให้ผู้วิจัยเสนอแนวคิดหรืออภิปรายผลงานวิจัยที่ค้นพบได้ถูกต้องและกว้างขว้างครอบคลุมประเด็นที่ต้องศึกษา
3.             ช่วยในการเลือกหัวข้อวิจัยได้ตรงจุดมากขึ้น
4.             หลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อน
5.             ช่วยทำให้ผู้วิจัยมีความรู้ในเรื่องที่ทำการวิจัยมากขึ้น เป็นการทบทวนความรู้เดิมและเพิ่มเติมความรู้ใหม่ ในเวลาเดียวกัน
6.             เพื่อค้นหาความจริงเป็นความจริงระดับสูงที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าเป็นอย่างไร
7.             ช่วยหลีกเลี่ยงการทำวิจัยที่มีความสำคัญน้อยและซ้ำซ้อนกัน


อ้างอิง
ล้วน สายยศ และ อังคนา สายยศ. (2528)วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์.กรุงเทพ: ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สุวิมล ติรภานันท์.(2548).ระเบียบการวิจัยทางสังคมศาสตร์.กรุงเทพฯ:แนวทางสู่การปฏิบัติ: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
องอาจ นัยพัฒน์.(2548).วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์.กรุงเทพ: ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น